Anti-Aging หรือที่ในภาษาไทยเรียกว่า “เวชศาสตร์ชะลอวัย” ก็ตามชื่อเนอะ เป็นการทำอะไรบางอย่าง เพื่อให้เราแก่ช้าลง
ซึ่งจริง ๆ ก็ต้องทำหลายอย่างประกอบกันแหละ แต่ในที่นี้เราจะมาพูดถึง Anti-Aging Skincare หรือสกินแคร์ที่จะช่วยให้เราผิวของเราเสื่อมช้าลง
Anti-Aging Skincare ถ้าจะให้หวังผลได้ ก็ต้องดูที่ส่วนผสม โดยผลที่เราหวังก็จะเป็นเรื่องของการเติมความชุ่มชื้น ลดเลือนริ้วรอย (บาง ๆ) การยกกระชับ และการทำให้พื้นผิวของหน้าดูละเอียด เนียนนุ่ม เหมือนผิวเด็ก
โดยสกินแคร์ที่เราควรใช้เป็นประจำไม่ว่าจะอายุเท่าไหร่คือ การทำความสะอาด เติมความชุ่มชื้น และกันแดด นอกนั้นคือการแก้ปัญหาผิวตามช่วงวัยกับแก้ปัญหาผิวที่เกิดขึ้น ณ ช่วงนั้น ๆ
เมย์ไม่แน่ใจว่าเพื่อน ๆ เคยได้ยินเหมือนกันหรือเปล่า .. ที่ว่าต้องอายุเยอะ ๆ เท่านั้นถึงจะใช้ Anti-Aging Skincare ได้
ซึ่งพอเมย์ทำข้อมูล “เคล็ดลับคนดัง” โดยเฉพาะของดาราเกาหลี ทำให้เมย์พบว่าหลายคนที่ผิวสวยหน้าเด็ก หนึ่งในเคล็ดลับของเค้าคือเริ่มใช้ Anti-Aging Skincare ตั้งแต่เนิ่น ๆ ค่ะ
โดยที่ตอนอายุน้อย ๆ เราอาจจะชะลอวัยด้วยการใช้ผลิตภัณฑ์ผลัดเซลล์ผิวแบบอ่อนโยน ใช้เซรั่มหรือครีมที่มีส่วนผสมของสารต้านอนุมูลอิสระเยอะ ๆ รวมถึงเติมความชุ่มชื้นและทากันแดดให้ผิวเยอะ ๆ ก็ช่วยได้ค่ะ แล้วพออายุมากหรือเริ่มมีริ้วรอยค่อยเริ่มใช้สกินแคร์ที่มีส่วนผสมช่วยลดเลือนริ้วรอยบาง ๆ
ในบล็อกนี้ เมย์หยิบสกินแคร์ Anti-Aging ที่เมย์ใช้ช่วงนี้มาเป็นตัวอย่างด้วยค่ะ
SK-II Facial Treatment ช่วยให้ผิวใส และปรับวงจรการผลัดเซลล์ผิวของเราทำงานอย่างเป็นปกติ
การผลัดเซลล์ผิว ช่วยให้ผิวของเราไม่หมองคล้ำ อุดตัน แถมยังช่วยลดริ้วรอยบาง ๆ ได้ด้วยค่ะ
Clinique Fresh Press Vitamin C 10% ช่วยกระตุ้นการสร้างคอลลาเจน ลดเลือนจุดด่างดำ พร้อมปรับสีผิวให้สม่ำเสมอ
Innisfree Green Tea Seed Cream แนะนำสำหรับคนผิวแห้ง ใช้สำหรับทาเคลือบกักเก็บความชุ่มชื้นให้อยู่บนผิวเป็นตัวสุดท้าย (ถ้าเป็นตอนเช้า อย่าลืมตามด้วยผลิตภัณฑ์กันแดด)
นอกจากการเติมความชุ่มชื้น ส่วนผสมจากชาเขียวช่วยต้านอนุมูลอิสระ ส่งผลให้ผิวของเราเสื่อมช้าลงด้วย
อายครีมของ Estee กับออยล์เซรั่มของ Clarins .. 2 ตัวนี้เมย์เพิ่งเคยได้ลองใช้ค่ะ หลังจากที่ได้ยินฟีดแบคมายาวนาน
เพิ่งลองใช้ครั้งแรกเนอะ บอกได้แค่ว่า “เนื้อสัมผัสดี” ค่า
ตัวสุดท้ายที่เมย์ใช้เสริมการทำงานของสกินแคร์ในช่วงนี้คือ FOREO LUNA2 (https://foreo.se/sbe1)
รุ่นนี้มีทั้งหมด 4 สี จะแตกต่างกันที่ลักษณะขนแปรง สีชมพูผิวปกติ สีฟ้าผิวผสม สีเขียวกับสีดําผิวมัน สีม่วงผิวบอบบาง
วิธีใช้ตอนล้างหน้า
ให้เครื่องโดนน้ำนิดนึง บีบเจลล้างหน้า กดเปิดแล้วลูบให้ทั่วผิว ซึ่งตัวเครื่องสามารถโดนน้ำได้เลย กันน้ำ 100% ไม่ช็อตค่ะ
วิธีใช้ตอนทาครีม
ด้านหน้าใช้ทําความสะอาด อีกด้านใช้นวดยกกระชับ ช่วยผลัก Skincare ให้ซึมได้ดียิ่งขึ้น
ใช้งานเหมือนกันเลยค่ะ แค่เปิดเครื่องแล้วใช้ด้านคลื่น ๆ นวดครีมบนผิว
ใช้เสร็จทําความสะอาดง่าย แค่ล้างน้ำเปล่าแล้ววางตั้งไว้เดี๋ยวเค้าแห้งเองไม่ต้องเช็ด
คำถามยอดฮิต : ใช้เครื่องล้างหน้าทุกวันได้ไหม ?
คำตอบคือ ขึ้นอยู่กับเครื่องล้างหน้าที่ใช้ และขึ้นอยู่กับสภาพผิวของเราค่ะ
อย่างคนที่ผิวอุดตันง่ายก็จำเป็นต้องใช้บ่อยกว่าคนผิวระคายเคืองง่าย
สำหรับเมย์ ส่วนใหญ่เมย์จะใช้เฉพาะตอนก่อนนอนค่ะ เพราะเราแต่งหน้า รวมถึงมลภาวะต่าง ๆ ที่ได้รับระหว่างวัน ใช้ด้านที่เป็นแปรงล้างหน้าก็ดูทำความสะอาดได้ล้ำลึกมากกว่า ส่วนด้านทาครีม เมย์ใช้ก่อนนอนเป็นหลักเหมือนกัน เพราะว่าเมย์ชอบโบกครีมก่อนนอน การใช้เครื่องนวดก่อน ทำให้ครีมซึมลงผิวได้ดีขึ้น เหนอะหมอนน้อยลงค่ะ
ส่วนตัวเมย์ได้ลองเทสใช้แค่ด้านซ้ายมา รู้สึกว่ามันดีกว่าไม่ได้ใช้ค่ะ ผิวหน้าดูกระชับ ใต้ตาดูช้ำน้อยลงด้วย
มีขายที่ Sephora ทุกสาขาทั้ง Online และ Offline นะคะ (https://foreo.se/sbe1)
Disclaimer : Sponsored by Foreo