“ผมหนาจัง ผมเยอะจัง ผมดำดีจัง ผมสวยจัง” เหล่านี้คือคำพูดที่เมย์ได้ยินมาตั้งแต่จำความได้ และมันทำให้เมย์ “รัก” เส้นผมของตัวเองมาก
จนกระทั่งเมื่อประมาณ 2 ปีก่อน เมย์ได้ “ลอง” เปลี่ยนสีผมเป็นครั้งแรก ผลลัพธ์ที่ได้คือ “สีผมสวย” “หน้า Bright มาก” “หน้าขาวขึ้น” …
แต่สุขภาพผมนะเหรอ แปรผกผันกับความ Bright ของผิวหน้าเลย และการทำสีผมใครบอกว่าทำครั้งเดียว ลองครั้งเดียวแล้วจะจบ พอตะขาบ (โคนผมดำ) ขึ้นทีไรก็ต้องย้อมใหม่ อีกครั้ง และอีกครั้ง สุขภาพของเส้นผมก็ยิ่งเสีย เสีย เสีย!!!!!
เมื่อก่อนเมย์ไม่ได้ดูแลหรือวอแวมากมายกับเส้นผมเท่าไหร่ ก็ดูแลไปตามประสาคน “รัก” เส้นผม สระผม นวดผม ใช้ทรีทเม้นท์แทนครีมนวดบ้าง หมักผมบ้าง (น๊านน … นานครั้ง) แต่หลังทำสีผม บำรุงยิ่งกว่าเดิม แต่ก็ดีได้ไม่เท่าเดิม…รู้สึกเสีย Self มากๆ
คิดไปคิดมาก็เริ่มทำใจได้ล่ะ ว่าจะปล่อยให้ผมยาวไปเรื่อยๆ แล้วค่อยเล็มปลายผมออกทีละนิด
แต่สีที่ย้อมครั้งล่าสุดคือสีน้ำตาลแดง ยิ่งโคนดำออก สีผมยิ่งตัดกัน บริเวณผมสียิ่งดูแห้งกรอบ …ดูแย่เข้าไปอีก
ก็เลยหาทางออกด้วยการเปลี่ยนสีผมอีกครั้ง … ด้วยสีน้ำตาลเข้ม ที่เวลาออกแสงก็ค่อนข้างกลมกลืนเหมือนผมสีดำเลย
แต่สุขภาพผมมันก็เสียอยู่ดี … คือถ้าดูเผินๆ สภาพผมก็อาจจะโอเคนะ แต่ถ้ามองใกล้ๆ จะเห็นว่าสีผมไม่เท่ากัน ดูแห้งๆ กรอบๆ
สุดท้ายยยยยยยยย … ก็อดใจไม่ไหวละ ต้องไปตัดผม (ทิ้ง) ใจจริงอยากตัดในส่วนที่เป็นผมทำสีออกหมดเลย แต่ถ้าทำแบบนั้นปลายผมต้องอยู่บนหูแน่ๆ ก็เลยตัดได้แค่ประมาณเลยบ่านิดหน่อย …
ถือว่าเปลี่ยนลุค (ก็ไม่ค่อยเปลี่ยนเท่าไหร่) แล้วก็กำจัดผมแตกปลายไปเลยทีเดียว … สีผมยังเหลือเกินครึ่งหัว คงต้องเลี้ยงให้ผมยาวแล้วไปตัดอีกเรื่อยๆ จนกว่าจะเป็นผมดำ (ธรรมชาติ) ทั้งหมด