สวัสดีค่ะทุกคน วันนี้เมย์ได้รับเซรั่มตัวใหม่จาก Lancome ซึ่งบอกเลยว่าในประเทศไทยยังไม่มีการเปิดตัว หรือวางขายใดใดทั้งสิ้น
ทาง Lancome มีแพลนจะเปิดตัวปลายเดือนสิงหาคม 2562 แต่ว่าส่งมาให้เมย์ได้ลองใช้ก่อน จะได้มีประสบการณ์ แล้วก็แนะนำเพื่อน ๆ ได้ถูกค่ะ
ส่วนตัวเมย์เองได้ลองใช้ Lancome Advanced Genifique มาแล้วทั้งหมด 3 ตัว คือ Advanced Genifique, Advanced Genifique Sensitive และ Advanced Genifique Eye & Lash Concentrate นี่ยังไม่รวมชีทมาส์กนะคะ .. เดี๋ยวจะทยอยนำมาข้อมูลมาเขียนให้ได้อ่านกัน
ขวดนี้เพิ่งมาถึงมือของเมย์สด ๆ ร้อน ๆ วันนี้เลยค่ะ ก็เลยอยากนำรายละเอียดมาเขียนให้เพื่อน ๆ ได้รู้ไปพร้อมกัน ก่อนที่เมย์จะลองใช้แบบจัดเต็ม แล้วนำมาเขียนรีวิวให้ได้อ่านกันอีกทีนะคะ
Lancome Advanced Genifique
ชื่อคุ้น ๆ ใช่ไหมคะ ? ก็คือเค้าเป็น Advanced Genifique “สูตรใหม่” มาแทนสูตรเดิม ที่มีวางขายมากว่า 10 ปีแล้ว
สิ่งที่ทาง Lancome ตื่นเต้น คือนวัตกรรมที่เรียกว่า “Microbiome” (ทางลังโคมตื่นเต้นจริง ๆ นะคะ ตอนที่เล่าให้เมย์ฟังคือบิ้วกันหนักมาก ตื่นเต้นไปด้วยเลยเนี่ย)
Microbiome คือ ระบบนิเวศของจุลินทรีย์ที่มีชีวิตและมีประโยชน์ และเป็นส่วนประกอบสำคัญของผิวชั้นนอก
แต่ละคนจะมี Microbiome ไม่เหมือนกัน ประกอบกับสภาพแวดล้อมที่แต่ละคนเผชิญมีความแตกต่างกัน ทำให้ Microbiome ยิ่งมีแตกต่างกันออกไปอีก
แต่ความสมดุลของ Microbiome จำเป็นต่อทุกสภาพผิว
นักวิทยาศาสตร์พบว่า ผู้หญิงที่ใช้ชีวิตท่ามกลางสภาพแวดล้อมที่มีมลภาวะสูงมี Microbiome ใกล้เคียงกับผู้หญิงที่มีอายุมาก ๆ ดังนั้น การดูแล Microbiome ให้สมดุลอยู่เสมอเลยเปรียบเสมือนเคล็ดลับผิวอ่อนกว่าวัยนั่นเอง
อ่านเพิ่มเติมเกี่ยวกับ Microbiome
ซึ่ง Lancome Advanced Genifique สูตรใหม่ เค้าเคลมว่า ใน 1 ขวด ช่วยแก้ปัญหาต่าง ๆ ได้ ดังนี้
- ความเปล่งปลั่ง
- ริ้วรอยตื้น ๆ
- รอยย่น ร่องลึก
- ความสม่ำเสมอของสีผิว
- ความเรียบเนียน
- ความยืดหยุ่น
- ความกระชับ
แถมยังมีให้เลือกหลายขนาด
20 ml. / ราคา 2,000 บาท
30 ml. / ราคา 3,200 บาท
50 ml. / ราคา 4,700 บาท
75 ml. / ราคา 5,500 บาท
115 ml. / ราคา 8,000 บาท
ลักษณะแพคเกจจิ้ง ใกล้เคียงกับสูตรเดิมมากทั้งกล่องและขวด
ฝาเป็นดรอปเปอร์เหมือนกัน จุดสังเกตคือสูตรใหม่จะไม่มีรูปดอกกุหลาบ
เนื้อผลิตภัณฑ์มีสีใกล้เคียงกัน สูตรใหม่ สีออกขาวกว่าเล็กน้อย (ไม่แน่ใจว่าเป็นเพราะสูตรเดิมเมย์เปิดใช้มาหลายเดือนแล้วหรือเปล่า) และถ้าสังเกตจากการไหล จะพบว่าสูตรเดิมไหลเร็วกว่านิดหน่อย แต่พอเกลี่ยก็มีความใกล้เคียงกันแหละ ซึมไวพอ ๆ กัน
Ingredients
Water, Bifida Ferment Lysate, Glycerin, Alcohol Denat., Dimethicone, Hydroxythylpiperazine Ethane Sulfonic Acid, Ascorbyl Glucoside, Lactobacillus, Tocopherol, Sodium Hyaluronate, Sodium Hydroxide, Sodium Benzoate, Phenoxyethanol, Adenosine, Faex Extract/ Yeast Extract, PEG-20 Methyl Glucose Sesquistearate, PEG-60 Hydrogenated Castor Oil, Polymnia Sonchifolia Root Juice, Maltodextrin, Salicyloyl Phytosphingosine, Ammonium Polyacryloyldimethyl Taurate, Limonene, Mannose, Xanthan Gum, Pentylene Glycol, Propylene Glycol, Caprylyl Glycol, Alpha-Glucan Oligosaccharide, Sorbitol, Disodium EDTA, Rosa Gallica Flower Extract, Octyldodecanol, Fragrance
ตัวหนา คือเป็นส่วนผสมที่มีในสูตรเดิม ซึ่งก็มีแทบทุกตัว ยกเว้น Citronellol
อย่างไรก็ตาม บทความนี้เป็นแค่การเปรียบเทียบลักษณะภายนอกที่จับต้องได้ของผลิตภัณฑ์เท่านั้น เดี๋ยวเอาไว้ให้เมย์ได้ลองใช้แบบเต็ม ๆ แล้วจะนำมาเขียนเป็นบทความรีวิวให้ได้อ่านกันอีกทีนะคะ
** อัพเดตบทความเพิ่มเติมเมื่อวันที่ 12 กันยายน 2562
มี Bifida Ferment Lysate ช่วยให้ผิวชั้นนอกแข็งแรง และเพิ่มความชุ่มชื้น
มี Glycerin ให้ความชุ่มชื้น เสมือนเกราะป้องกันผิว
มี Hydroxythylpiperazine Ethane Sulfonic Acid ช่วยผลัดเซลล์ผิว
มี Ascorbyl Glucoside เป็น Whitening Anti-Aging และช่วยกระตุ้นการสร้างคอลลาเจน
มี Lactobacillus เพิ่มความแข็งแรงให้ Skin Barrier
มี Tocopherol วิตามินอี ให้ความชุ่มชื้นและเป็น Anti-Oxidant
มี Sodium Hyaluronate ให้ความชุ่มชื้น
มี Adenosine เป็น Anti-Aging เสริมการสร้างคอลลาเจน ช่วยลดริ้วรอย
มี Faex Extract / Yeast Extract สารสกัดจากการหมักบ่ม ทำหน้าที่คล้าย probiotics ในสกินแคร์ ช่วยให้ผิวชุ่มชื้น และอิ่มฟู
มี Polymnia Sonchifolia Root Juice เพิ่มความชุ่มชื้น
มี Ammonium Polyacryloyldimethyl Taurate ช่วยคงความยืดหยุ่นของผิวให้นานขึ้น
มี Mannose เติมน้ำให้ผิว
มี Alpha-Glucan Oligosaccharide ช่วยเพิ่มความชุ่มชื้น * prebiotic
มี Dimethicone ซิลิโคน ทำให้เนื้อสกินแคร์มีความลื่น ถ้าทำความสะอาดผิวดีก็ไม่มีปัญหา แต่ถ้าใครผิวอุดตันง่าย ก็อาจจะต้องหลีกเลี่ยง
มีแอลกอฮอล์ และน้ำหอม
หลัก ๆ ก็คือ เน้นเติมความชุ่มชื้น ทำให้ผิวแข็งแรง มี Anti-Oxidant และเป็น Anti-Aging กระตุ้นการสร้างคอลลาเจน ลดริ้วรอย
มาดูในส่วนของแพคเกจจิ้ง หน้าตาเหมือนเดิมมาก ขวดแก้ว ฝาดรอปเปอร์ ต่างกันแค่ สูตรใหม่ไม่มีลายดอกกุหลาบ
เนื้อสัมผัสลื่น เกลี่ยง่าย ซึมเร็ว และมีกลิ่นหอมคล้ายกัน
ดังนั้น สำหรับสาวก Lancome Advanced Genifique แม้ว่าสูตรเดิมจะหายไป แต่เมย์คิดว่าไม่น่าจะต้องกังวลมาก เพราะมีส่วนผสมเดิมแทบทั้งหมด แพคเกจจิ้งและสัมผัสคล้ายเดิม แต่ส่วนผสมดีขึ้น
สำหรับใครที่ยังไม่เคยใช้ Lancome Advanced Genifique เมย์ว่าผิวมันใช้ได้เลย ซึมเร็ว ไม่เหนอะ
ส่วนผิวแห้งแนะนำให้ทาครีมหรือเจลครีมตาม เพราะแม้ว่าเค้าจะเติมความชุ่มชื้นให้ผิวเราได้ แต่ไม่ค่อยมีตัวเคลือบผิว หรือจะใช้น้ำตบก่อน แล้วค่อยทาเซรั่มตัวนี้ แล้วตามด้วยครีมอีก 1 ตัวก็ยังได้ สบายมาก
Disclaimer : Lancome ส่งผลิตภัณฑ์มาให้ แต่บทความนี้เมย์เขียนขึ้นเอง ไม่ได้มีการว่าจ้างใดใดทั้งสิ้น