เมย์ใช้ Loland Hair Treatment มาตั้งแต่ยังเรียนอยู่มอปลาย ตอนนั้นเส้นผมยังไม่เคยผ่านการม้วนลอนหรือทำสีใดใดทั้งสิ้น แค่จะเป่าผมด้วยไดร์แม่ยังห้ามเลย ให้ใช้พัดลมแทน เพราะกลัวผมลูกสาวแห้งเสีย
ตอนนั้นก็ใช้แทนครีมนวดเหมือนกัน แต่ใช้แทบทุกวัน ทำให้เส้นผมมีน้ำหนัก หนักมาก ผมทิ้งตัวสุด ๆ จนบางครั้งก็มันเยิ้มและลีบแบนเลยแหละ เข้าใจว่าน่าจะใช้บ่อยเกินไป
พอโตขึ้น เส้นผมเคยผ่านการทำสีมาประมาณ 3-4 ครั้ง ไม่เคยผมเสียมาก่อน เลยรับไม่ได้อย่างแรง จึงตัดผมสั้นเพื่อเลี้ยงผมใหม่อยู่ 2 ปี
ตอนนี้จะกลับมาไว้ผมยาวเหมือนเดิมแล้ว แต่พอผมเริ่มยาว ก็ต้องสระผมบ่อยขึ้น เพราะผมหนา ทำให้หนังศีรษะอับชื้นได้ง่าย พอสระผมบ่อย ผมก็เริ่มแห้ง ก็เลยต้องหาตัวช่วย
Loland Hair Treatment
เป็นอะไรที่หาซื้อง่ายมาก ในซุปเปอร์มาร์เก็ตก็มี เซเว่นอีเลฟเว่นก็มี มีหลายสูตร หลายไซส์ และราคาไม่แพงด้วย (ราคาหลักสิบก็มีนะ)
สูตรที่เมย์ใช้บ่อย ๆ ถ้าจำไม่ผิดน่าจะเป็น สูตรน้ำมันดอกทานตะวัน ที่มีรูปทานตะวันค่ะ แต่ตอนนี้เมย์ใช้สูตร For Dry & Damaged Hair + Jojoba Oil & Silk Protein รูปผลมะกอก
Loland Hair Treatment กระปุกสีเขียวเป็นอะไรที่เมย์คุ้นเคยมาก กลิ่นก็คุ้นเคย หอมเป็นเอกลักษณ์สุด ๆ
กระปุกสีเขียว ฝาเกลียว กระปุกนี้เมย์ใช้เกือบหมดแล้วค่ะ ตั้งแต่ซื้อมาก็ใช้เป็นประจำ เมย์ใช้แทนครีมนวดผม สระผมเสร็จก็ชะโลม Loland Hair Treatment ที่ปลายผม ขยำนิดนึงแล้วก็ล้างออก ใช้ติดกันบ้าง (ทุกครั้งหลังสระผม) หรือไม่ก็เว้นบ้าง ในช่วงที่รู้สึกว่าผมมีน้ำหนักกำลังดี หรือช่วงที่ขี้เกียจก็จะข้าม ๆ ไปค่ะ 55555
ใครที่ยังไม่เคยใช้ Loland Hair Treatment เนื้อทรีทเม้นท์จะเป็นสีขาวนุ่ม เนียน และลื่นมาก สำหรับคนที่ผมแห้งเสีย จะชะโลมเยอะ ๆ และหมักทิ้งไว้ประมาณ 30 นาที ผลลัพธ์ที่ได้จะดีกว่า หรือจะใช้แทนครีมนวดผมเหมือนเมย์ก็ได้ค่ะ เมย์ใช้แล้วได้ผลดีมาก ๆ
Disclaimer : Non – Sponsored