วิธีดูแลผิวของผู้หญิงวัย 30+ (จากกระทู้ Pantip)

สวัสดีค่ะทุกคน เมย์ไปเจอกระทู้นึงใน Pantip ที่ถามเกี่ยวกับการดูแลผิวของ มนุษย์เงินเดือน เพศหญิง วัย 30+

ตอนนี้เมย์อายุ 26 กลาง ๆ นะคะ ยังไม่ถึง 30 แต่ก็สนใจเหมือนกัน ว่าพี่ ๆ เค้าดูแลผิวกันยังไง เผื่อได้ไอเดียที่สามารถนำมาปรับใช้กับตัวเองได้ค่ะ

เจ้าของกระทู้ หรือที่ชาวเน็ตชอบย่อกันว่า จขกท เปิดประเด็นไว้ว่า

อายุ 30+ ริ้วรอยเริ่มมา ทาครีม ทาเซรั่ม นอนแต่เช้า ดื่มน้ำเยอะ ๆ กินผักผลไม้ ก็เอาไม่ค่อยอยู่แล้ว เริ่มคิดแล้วว่าควรจะเข้าคลินิกดีมั้ย แต่ก็แอบเสียดายเงินตามประสามนุษย์เงินเดือนไม่ได้ร่ำรวยอะไร

ปัจจุบันใช้ Skin Care เคาน์เตอร์แบรนด์ คิดคร่าวๆ เป็นรายจ่าย 5% ของรายได้ต่อเดือนค่ะ แต่ถ้าเข้าคลินิกน่าจะต้องจ่ายเยอะมากกว่านี้พอสมควร

เลยอยากถามความเห็นสาวๆ วัยใกล้เคียงกันว่า
1) ทำอะไรกับการดูแลผิวหน้าบ้างคะ
2) เสียเงินให้กับเรื่องการดูแลผิวประมาณเดือนละเท่าไหร่ (ถ้าไม่สะดวกบอกเป็นตัวเลข เอาเป็น % ของรายได้ก็ได้นะคะ)
3) พอใจกับผลลัพธ์ที่ได้รึเปล่าคะ รู้สึกว่าคุ้มค่าไหม

กระทู้นี้ ณ ตอนที่เมย์เข้าไปเจอ มีความคิดเห็นทั้งหมด 48 ความคิดเห็นนะคะ มาดูกัน ว่าเราจะได้เคล็ดลับอะไรจากกระทู้นี้บ้าง

เริ่มจาก Topic ของความคิดเห็นที่ 1

“ถ้าโสดลงทุนกับความสวยไม่สูญเปล่า ถ้าแต่งงานแล้วอย่าลงทุนเยอะหมดเงินเปล่า และคนข้างๆ เขาไม่ชมหรอกครับ เก็บเงินเอาไว้เที่ยวหรือลงทุนเอาเงินไว้ตอนเกษียนเถอะ”

จากที่อ่านความคิดเห็นย่อย คิดว่าน่าจะมาจากพี่ ๆ ที่มีสามีแล้วนะคะ ซึ่งมีความคิดเห็นไปในทางเดียวกัน คือ

แต่งงานแล้วก็ควรลงทุนดูแลตัวเองเหมือนกัน เพราะผู้ชายส่วนใหญ่ ต่อให้บอกเมียว่าไม่ต้องสวยมากหรอก สุดท้ายก็ไปมองผู้หญิงที่สาวกว่า สวยกว่าอยู่ดี ถึงเราจะไม่อ่อนเยาว์เท่าน้องๆ แต่ก็ต้องสวยให้เป็นที่เชิดหน้าชูตาของสามีก็ยังดีค่ะ

ซึ่งเมื่อเราดูแลตัวเองได้ดี แฟน/สามีพาไปไหนก็มีแต่คนชมว่าเราสวยอย่างนั้นอย่างนี้ ยิ้มแก้มปริแน่นอน และมีแต่อยากจะพาเราไปไหนมาไหนด้วย ซึ่งช่วยกระชับความสัมพันธ์ได้อีกรูปแบบนึงนะคะเมย์ว่า

คิดดูสิ แค่คบเป็นแฟน ยังไม่ต้องถึงขั้นแต่งงานก็ได้ แต่แฟนไม่กล้าไปไหนมาไหนกับเรา ไม่กล้าเปิดเผยว่าคบกับเรา เพราะว่าเราไม่สวย หรือดูไม่ดี จนเขาอาย เราก็น่าจะเสียใจมาก แล้วก็น่าจะกระทบต่อความสัมพันธ์

กลับเข้าสู่ “วิธีดูตัวเองของผู้หญิงวัย 30”

คนที่มาแสดงความคิดเห็นในกระทู้นี้มีตั้งแต่อายุ 20 ปลาย ๆ ถึงอายุเกือบ 50 ส่วนใหญ่คือพอใจในผิวของตัวเอง และมักมีคนชมว่าผิวดี หน้าเด็ก ทายอายุกันไม่ถูก

ในด้านของงบประมาณ ส่วนใหญ่ไม่ได้ซื้อกันทุกเดือน หรือถ้าซื้อบ่อย ก็ไม่ได้คำนวณอยู่ดี เน้นไม่เดือดร้อนกระเป๋าเงิน แต่ถ้าใครจัดสรรงบประมาณการใช้จ่ายแบบจริงจัง ตัวเลขที่เห็นผ่านตาก็จะอยู่ที่ประมาณ 5-10% ของรายได้ค่ะ

Basic Skincare

  • การดูแลผิวขั้นพื้นฐานที่ขาดไม่ได้คือ ทำความสะอาด เติมความชุ่มชื้น และกันแดด
  • ล้างหน้าแบบไหนก็ได้ ด้วยมือหรืออุปกรณ์อะไรก็ได้ เน้นที่สะอาด และอ่อนโยน
  • ความชุ่มชื้นเป็นสิ่งที่ขาดไม่ได้ เพราะถ้าขาดเป็นบ่อเกิดของริ้วรอย และถ้าผิวได้รับความชุ่มชื้นอย่างเต็มที่ ผิวจะดูเด็ก และเด้ง
  • บำรุงรอบดวงตาเช้าเย็น
  • นอกจากความชุ่มชื้นแล้ว เน้นกลุ่มลดเลือดริ้วรอย และเพิ่มความกระจ่างใสด้วย อย่างหลังนอกจากจะช่วยเรื่องความไบร์ทของผิวยังช่วยเรื่องรอยสิว หรือจุดด่างดำได้ด้วย
  • ต้องขยันทาครีม โดยเฉพาะครีมกันแดด
  • ครีมกันแดดต้องทาทุกวัน แม้วันที่ฝนตก ไม่มีแดด หรือไม่ได้ออกจากบ้าน
  • ต้องเป็นกันแดดคุณภาพดี และทาให้ได้ปริมาณ ไม่งั้น ครีมหลักหมื่นก็ไร้ความหมาย
  • ความคิดเห็นที่ 6 บอกว่า “ใช้กันแดดมาตั้งแต่เด็ก เลข 4 แล้ว หน้ายังไม่มีรอย”
  • นอกจากนั้นก็มีสครับผิว ใช้ AHA/BHA สัปดาห์ละ 1-2 ครั้ง
  • และมาส์กหน้า ความถี่ขึ้นอยู่กับความสะดวกของเรา

ของถูก VS. ของแพง

  • ส่วนใหญ่ในกระทู้นี้ใช้สกินแคร์ Counter Brand เหตุผลนึงเพราะเชื่อใน R&D (Reseacrh and Develop มีงานวิจัย มีการอ้างอิงที่มาที่ไป มีความน่าเชื่อถือ)
  • แต่หลายเสียงก็บอกว่าไม่จำเป็นต้องใช้ของแพง เน้นที่เหมาะกับผิวเราดีที่สุด และเลือกจากส่วนผสมเพื่อผลลัพธ์ที่คุ้มค่า
  • ส่วนความเห็นที่ 39 บอกว่า “ปรับสกินแคร์ให้ประหยัดขึ้น ใช้น้อยขั้นตอนลง เก็บเงินไปยกกระชับผิว”

คลินิก จำเป็นไหม

  • ในหัวข้อนี้มีทั้งสองเสียงเลย คือทั้งเข้าคลินิก และไม่เข้า
  • ฝั่งที่ไม่เข้าส่วนใหญ่ก็คือกลัวผิวบาง
  • ส่วนฝั่งที่เข้าคลินิก เน้นว่าต้องเลือกคลินิกดี ใช้ยาดี ของแท้ บอกว่า แพงจริง แต่ผลลัพธ์ดีงาม
  • อะไรที่สกินแคร์รักษาไม่ได้ ก็หาหมอบ้าง เช่น กระ ฝ้า ความหย่อนคล้อย หลุมสิว
  • ส่วนโปรแกรมที่ทำ ก็จะมีผลักวิตามิน เลเซอร์ โบท็อกซ์ ยกกระชับ ความถี่ขึ้นอยู่กับเรา แต่ส่วนใหญ่จะซื้อเป็นคอร์สเพราะหารเฉลี่ยแล้วถูกกว่า

สวยจากภายใน

นอกจากการใช้สกินแคร์และเข้าไปเสริมสวยที่คลินิก การออกกำลังกายและอาหารการกินก็มีส่วนนะคะ ความคิดเห็นที่ 42 บอกว่า “ช่วงที่กินอาหารดี ออกกำลังดี นอนดี ผิวจะ Glow มีเลือดฝาดที่แก้มแบบไม่ต้องปัดบลัชออก”

  • เน้นออกกำลังกายเป็นประจำ ไม่หักโหม
  • ดื่มน้ำเปล่าวันละ 2-3 ลิตร
  • No ชา กาแฟ บุหรี่ และแอลกอฮฮล์
  • ส่วนเรื่องอาหารเสริม ก็แบ่งออกเป็น 2 เสียง คือมีทั้งกิน กับไม่กิน
  • กินอาหารคลีนก็ช่วย
  • ความคิดเห็นที่ 20 บอกว่า “งดน้ำตาลหลัง 6 โมงเย็น และพยายามเลี่ยงน้ำตาล เพราะน้ำตาลทำให้เราแก่เร็ว”
  • นอนเยอะ นอนไว นอนก่อนเที่ยงคืน
  • สุดท้ายคือ พยายามปล่อยวาง และไม่เครียด

ข้อความที่เขียนไว้ด้านบน มีทั้งสิ่งที่เมย์ทำอยู่แล้ว แพลนว่าจะทำ และยังไม่ได้ทำ ก็ดีใจเหมือนกันที่บังเอิญเปิดมาเจอกระทู้นี้ เพราะการดูแลตัวเองให้ดูอ่อนกว่าวัย มีหลายปัจจัย และมีรายละเอียดค่อนข้างเยอะ

เมย์คิดว่าบทความนี้มีประโยชน์ต่อเมย์ และเมย์ก็หวังว่าบทความนี้จะมีประโยชน์ต่อเพื่อน ๆ ที่ชอบบำรุงผิวเหมือนกันนะคะ

เราใช้คุกกี้เพื่อพัฒนาประสิทธิภาพ และประสบการณ์ที่ดีในการใช้เว็บไซต์ของคุณ คุณสามารถศึกษารายละเอียดได้ที่ นโยบายความเป็นส่วนตัว และสามารถจัดการความเป็นส่วนตัวเองได้ของคุณได้เองโดยคลิกที่ ตั้งค่า

Privacy Preferences

คุณสามารถเลือกการตั้งค่าคุกกี้โดยเปิด/ปิด คุกกี้ในแต่ละประเภทได้ตามความต้องการ ยกเว้น คุกกี้ที่จำเป็น

Allow All
Manage Consent Preferences
  • คุกกี้ที่จำเป็น
    Always Active

    ประเภทของคุกกี้มีความจำเป็นสำหรับการทำงานของเว็บไซต์ เพื่อให้คุณสามารถใช้ได้อย่างเป็นปกติ และเข้าชมเว็บไซต์ คุณไม่สามารถปิดการทำงานของคุกกี้นี้ในระบบเว็บไซต์ของเราได้

  • คุกกี้เพื่อการวิเคราะห์

    คุกกี้ประเภทนี้จะทำการเก็บข้อมูลการใช้งานเว็บไซต์ของคุณ เพื่อเป็นประโยชน์ในการวัดผล ปรับปรุง และพัฒนาประสบการณ์ที่ดีในการใช้งานเว็บไซต์ ถ้าหากท่านไม่ยินยอมให้เราใช้คุกกี้นี้ เราจะไม่สามารถวัดผล ปรับปรุงและพัฒนาเว็บไซต์ได้

  • คุกกี้เพื่อปรับเนื้อหาให้เข้ากับกลุ่มเป้าหมาย

    คุกกี้ประเภทนี้จะเก็บข้อมูลต่าง ๆ รวมทั้งข้อมูลส่วนบุคคลเกี่ยวกับตัวคุณเพื่อเราสามารถนำมาวิเคราะห์ และนำเสนอเนื้อหา ให้ตรงกับความเหมาะสมกับความสนใจของคุณ ถ้าหากคุณไม่ยินยอมเราจะไม่สามารถนำเสนอเนื้อหาและโฆษณาได้ไม่ตรงกับความสนใจของคุณ

Save